อาหารเพื่อสุขภาพคนทำงาน…..ครับ

                  เป็นที่ทราบกันดีครับ สำหรับหนุ่ม สาว ที่ทำงานในปัจจุบัน เรื่องห่วงใยใส่ใจสุขภาพตนเอง น่าจะมาเป็นอันดับต้น สังเกตการณ์เติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงาม  แต่บางทีเราไม่จำเป็นต้องพึ่งอาหารเสริมหรือ โปรแกรมสุขภาพแบบแพง ๆ ก็ได้ครับ เพียงแต่เราใส่ใจ กับอาหารที่เราทานเข้าไป   ร้านสมุนไพรทิพย์ มีเคล็ดลับ การทานอาหารเพื่อสุขภาพมาฝากครับ

          1. ข้าวกล้อง ข้าวกล้องมีวิตามินบีและอีสูง จึงช่วยเพิ่มพลังสมองในการทำงานช่วยป้องกันโรคเหน็บชาที่คนที่ต้องนั่งโต๊ะทำงานนานๆ มักจะเป็นกัน แถมยังป้องกันโรคสมองเสื่อมในอนาคตได้ด้วย

         2. วิตามินบี มีอีกชื่อหนึ่งว่า "สารให้ความกระปี้กระเปร่า" มีอยู่ในข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท จมูกข้าว ถั่ว เมล็ดทานตะวัน นม กล้วย ส้ม เป็นต้น สาวๆ ที่ทำงานนานจนล้าห้ามพลาด

         3. วิตามินซี ที่อยู่ในผักและผลไม้ เช่น ฝรั่ง สตรอเบอร์รี่ น้ำส้มคั้น มะละกอ บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี ถั่วงอก ฯลฯ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากในการสร้างฮอร์โมนระงับความเครียด จะได้ทำงานอย่างสดใสไปทั้งวันเลย

         4. น้ำมันปลา หรือโอเมก้า 3 ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ไขข้ออักเสบ ช่วยลดอาการปวดรอบเดือนและระงับอาการซึมเศร้า เบื่อหน่ายจากการทำงานได้ด้วย

         5. ผักใบเขียว อย่างตำลึง คะน้า เป็นอาหารกลุ่มโครินที่มีวิตามินบี ซึ่งช่วยเพิ่มความจำและสมาธิ

         6. ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน เพื่อป้องกันอาการอ่อนเพลีย และการเป็นตะคริวจากการนั่งหรือยืนนานๆ แถมยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสด้วย สาวๆ ที่ทำงานในห้องแอร์ตลอดวันยิ่งควรดื่มบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ผิวแห้ง

         7.น้ำใบบัวบก ทำงานมาทั้งวันช่วงบ่าย สาวๆ ก็คงจะเพลีย ขอแนะนำให้ดื่มน้ำใบบัวบกเพราะเป็นน้ำเพิ่มพลังชั้นยอด เป็นยาบำรุงแก้อ่อนเพลียช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เสริมสร้างความจำและช่วยให้สมองทำงานได้ดีด้วย

         8. ทานของหวานหลังอาหารกลางวัน จะทำคงความสดชื่นได้ยาวนานขึ้น เพราะรสเปรี้ยวและรสหวานนั้นจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นในร่างกาย ยิ่งตอนบ่ายๆ อาจจะง่วง ผลไม่รสเปรี้ยวคือคำตอบของคุณ ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงหรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ จะกระตุ้นให้สาวๆ กระปรี้กระเปร่าขึ้นได้

         9. ถั่ว ยิ่งคนที่ต้องใช้สายตาเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืองานที่ต้องใช้สายตานานๆ ควรมีถั่วติดโต๊ะไว้ด้วย เพราะถั่วมีวิตามินบี  2 บำรุงสายตาได้ดี

         10. วิตามินซีและธาตุเหล็ก เพราะเวลาที่มีรอบเดือนร่างกายจะขาดธาตุเหล็ก ทำให้เหนื่อยง่าย หงุดหงิด ไม่มีสมาธิช่วงนั้นของเดือนจึงเป็นเวลาที่สาวๆ อย่างเราต้องทางวิตามินซี และธาตุเหล็กมากๆ วิตามินซีจะช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น

         11. ชาเขียว นอกจากจะทำให้ลมหายใจสดชื่นไม่มีกลิ่นปากแล้ว ถึงชาเขียวที่ทานแล้วยังช่วยลดมลพิษในห้องทำงานได้ด้วย แค่วางทิ้งไว้เฉยๆ มันก็จะดูดฝุ่นละอองให้เราเอง ทำให้ลดการเป็นภูมิแพ้ไปโดยอัติโนมัติ

         12.ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัดในมือเช้า เพราะในตอนเช้าร่างกายของเรายังปรับตัวไม่ทันกับรสชาติเผ็ดร้อน เช้าๆ ควรทานเป็นอาหารรสกลางๆ ไปก่อนจะดีกว่า

         13. ดื่มน้ำผลไม้ 1 แก้ว ก่อนจะดื่มกาแฟควรดื่มน้ำผลไม้ก่อน 1 แก้ว เพราะการดื่มกาแฟโดยที่ไม่มีอะไรรองท้องจะช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าได้ไม่นาน หลังจากนั้นจะกลับมาง่วงเหมือนเดิม และไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 3 แก้วต่อวัน เพื่อไม่ให้ได้รับคาแฟอีนมากเกินไป

         14. งดชากาแฟในเวลาเย็น เพราะอาจทำให้นอนไม่หลับ ส่งผลให้สมองพักผ่อนไม่เพียงพอ พอตื่นขึ้นมาสมองก็จะล้า คิดอะไรไม่ออกทำงานได้ไม่เต็มที่

         15. หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มและมันจัดในมื้อเที่ยง เพราะอาหารที่มีไขมันสูงหรือเค็มจะทำให้เกิดการสะสม มีผลให้ร่างกายเคลื่อนไหวช้า ขาดความคล่องตัวที่คนทำงานต้องมี

Anthocyanin กับสุขภาพ ( 5 )

Anthocyanin กับสุขภาพ
Antioxidant anthocyanin เป็นสาร antioxidatant ที่ทำงานได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 5 เท่า เมื่อร่างกายได้รับสารนี้อย่างเพียงพอที่จะไปทำหน้าที่จับกับอนุมูลอิสระ(free radical) ที่ไปรบกวนระบบการทำงานของเซลล์ในร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี รวมทั้งลดริ้วรอยอันเกิดก่อนวัย บำรุงผิวพันธุ์
ระบบเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน(connective tissue) เมื่อเกิดการอักเสบของแผลทำให้เอนไซม์ใน capillaries เสียหายทำให้เลือดไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อมาก ทำให้เนื้อเยื่อบวมซ้ำสีดำ และทำให้ blood-vessel wall เสียหาย ซึ่งสาร anthocyanin จะเข้าไปทำหน้าที่ทำให้เอนไซม์ที่เสียหายเกิดสภาวะเป็นการ (neutralize)ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และก็สะสมอนุภาค antioxidant เพื่อป้องกันอนุภาค oxidant ที่เกิดจากการที่เนื้อเยื่อเกิดอักเสบ สุดท้ายก็ทำหน้าที่ซ่อมแซมโปรตีนที่ ให้ blood-vessel wall
ระบบประสาท( nervous system) ในสมองซึ่งได้รับผลกระทบจากเกิด oxidation ทำให้ได้รับความเสียหาย สาร peroxynitrite ทำปฏิกิริยา nitration กับกรดอะมิโน tyrosine ในเอนไซม์ และโปรตีนที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักของโรคเส้นประสาทในสมองเสื่อม ซึ่งกรดอะมิโน tyrosine ที่ถูก nitrated แล้วไป block กับ nerve growth-factor receptor site สาร anthocyanin จะป้องกันการเกิด tyrosine nitration
เส้นเลือดใหญ่(large blood vessels) สาร anthocyanin สามารถต่อสู้กับอนุภาค superoxide ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคความดันโลหิตสูง(athleroscerosis) โดยป้องกันการเกิด oxidation ของ low-density lipoprotein(LDL) และปกป้องเซลล์ endothelial ที่เส้นเลือดจากการกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวเคลื่อนย้ายเข้ามาสู่บริเวณนี้ นอกจากนี้สาร anthocyanin ยังช่วยผ่อนคลายเส้นเลือด
เส้นเลือดเล็ก(small blood vessels) สาร anthocyanin ทำให้ microcapillary แข็งแรง โดยทำการ stabilizing ที่ capillary wall
โรคเบาหวาน(diabetes) ความเสียหายของ microvessel จากการที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นสาเหตุแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน การที่โปรตีน collagen กลายมาเชื่อมกับน้ำตาลเป็นผลมาจากความผิดปกติของ polymeric blood vessel collagen ในประเทคเยอรมันมีการทดสอบให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน 12 คน รับประทานสาร anthocyanin 600 mg ทุกวันเป็นเวลา 2 เดือน เมื่อนำเนื้อเยื่อมาตรวจพบว่าสามารถลดความผิดปกติของ collagen
สายตา(eyesight) สาร anthocyanin ช่วยบำรุงสายตา ในประเทศฝรั่งเศส มีการทดสอบใน 36 คน รับประทานสาร anthocyanin ที่สกัดจากลูกบูลเบอรี่ พบว่าภายในช่วง 24 ช.ม. หลังทานสารนี้เข้าไป สายตาสามารถทำการมองเห็นในเวลากลางคืนได้ดีขึ้น
โรคมะเร็ง(cancer) มีข้อมูลจากหลายห้องปฏิบัติการทดลอง พบว่าสาร cyanidin สามารถยับยั้ง epidermal growth factor receptor ในเชลล์มะเร็งในมนุษย์

Proanthocyanidin
สาร proanthocyanidin เป็นสาร antioxidant ที่มีประสิทธิภาพการทำงานดีกว่าวิตามินซี วิตามินอี และเบต้าคาร์โรทีน ในอนาคตจะต้องรับประทานสาร proanthocyanidin บ่อยเหมือนยาแอสไพริน(aspirin)
สาร proanthocyanidin ยับยั้งการเกิดโรค atherosclerosis โดยไปยับยั้งการเกิด oxidized ใน low-density lipoproteins(LDL) ซึ่งทำความเสียหายให้เซลล์ที่ผนังเส้นเลือดมากมาย ก่อให้เกิดการอักเสบ เซลล์ smooth muscle เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเกิดกลไกลการจับตัว(clotting) ซึ่งเป็นสาเหตุนำไปสู่โรค atherosclerosis
สาร proanthocyanidin ป้องกันการเกิดมะเร็ง โดยจะไปฆ่าเซลล์มะเร็ง ยับยั้งไม่เจริญเติบโตได้ทั้งใน โพรงจมูก ปอด กระเพาะอาหาร และเซลล์เม็ดเลือดขาว
นอกจากนี้ยังพบว่าสาร proanthocyanidin ยังป้องกันไวรัส จากการทดลอง(in vitro) พบว่าสามารถฆ่าไวรัส HSV-1 และมีรายงานว่ายังยับยั้งการทำงานเอนไซม์ reverse transcriptase ในไวรัส HIV
สาร proanthocyanidin นอกจากป้องกันโรค ยังมีรสหวานกว่าน้ำตาลถึง 35 เท่า ผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลจะรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้เข้าไปบำรุงผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย เพราะการเกิด oxidation จะทำให้ผิวพรรณเหี่ยวย่น และที่น่าสนใจอีกอย่างคือลดผลกระทบจากรังสี UV คือทำหน้าที่เป็นครีมกันแดด และ antioxidant ที่ให้มีสุขภาพที่ดีและยังเพิ่มความงามได้อีกด้วย และยังมีรายงานว่าสารนี้ยังบำรุงผมให้เส้นหนาดกมีสุขภาพผมที่ดี